บริษัท โครีม คอร์เปอเรชั่น จำกัด เคารพสิทธิส่วนบุคคลและให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงได้กำหนดประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) นี้ขึ้นในการดำเนินงานของบริษัท เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า บริษัท มีวิธีปฏิบัติในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไร มีวัตถุประสงค์อะไรบ้าง และมีวิธีการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนการปฏิบัติต่อสิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นี้ครอบคลุมการให้บริการต่างๆ
ของบริษัท ทั้งทาง Website และช่องทางอื่นๆ
แก่ท่านและผู้ที่มาติดต่อหรือเกี่ยวข้องกับบริษัท ท่านยอมรับว่า
การที่ท่านใช้บริการของบริษัทผ่านทางช่องทางต่างๆ
หรือการให้ข้อมูลกับบริษัทถือว่าท่านได้ยอมรับวิธีปฏิบัติของบริษัทตามที่ระบุในประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้แล้ว ทั้งนี้
บริษัทมีนโยบายในการพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการให้มีความทันสมัย
มีประสิทธิภาพและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ บริษัทจึงอาจมีการปรับปรุงแก้ไข
ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) นี้เป็นครั้งคราว จึงขอให้ท่านตรวจสอบ
ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นระยะๆ
เพื่อที่ท่านจะได้ทราบ ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลล่าสุดของบริษัท
ข้อ 1 คำนิยาม
“บริษัท” หมายความว่าบริษัท โครีม คอร์เปอเรชั่น จำกัด
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บริษัทซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทในนโยบายนี้จะเรียกว่า “ท่าน”
“บุคคล” หมายความว่า บุคคลธรรมดา
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคลแต่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
ข้อ 2 ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทเก็บรวบรวม
วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
2.1 บริษัทจะทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ท่านทราบไว้ก่อนหรือในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
2.2 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง ในกรณีที่เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด
2.3 ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำสัญญา การไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินการดังกล่าว
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม วัตถุประสงค์ และฐานทางกฎหมาย
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม | วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล | ฐานทางกฎหมาย |
1.ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ อาชีพ หมายเลขประจำตัวประชาชน 2. ข้อมูลการติดต่อ เช่น สถานที่จัดส่งสินค้า สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร Email Line ID และข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นสมาชิก/ลูกค้ากับบริษัทหรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ 3. ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมซื้อขาย เช่นรหัสลูกค้า รายละเอียดการสั่งซื้อ 4.ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น จำนวนเงิน เงื่อนไขการชำระเงิน เลขที่บัญชี ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับสินค้า ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน 5.ข้อมูลที่ได้จากกล้องวงจรปิด CCTV เช่น ข้อมูลภาพถ่ายที่ได้จากกล้องวงจรผิด | 1. เพื่อวัตถุประสงค์ในการ ลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีลูกค้า | 1.1 ฐานสัญญา : เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของลูกค้า สำหรับการลงทะเบียนเป็นลูกค้ารายใหม่หรือการเปิดบัญชีลูกค้า 1.2 ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การจัดการบัญชีและการตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า |
2.เพื่อวัตถุประสงค์ในการ ดำเนินการเข้าทำสัญญา | 2.1 ฐานสัญญา : เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือการเข้าทำสัญญาและกระบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญา 2.2 ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย : เช่นการบริหารจัดการสัญญา การตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า และการพิจารณาคุณสมบัติของลูกค้า | |
3.เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า | 3.1 ฐานสัญญา:เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายและบริการ 3.2 ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย :เช่น การบริหารจัดการคำสั่งซื้อลูกค้า และการตรวจสอบยืนยันตัวตนของลูกค้า | |
4.การจัดเตรียมสินค้าและ/หรือดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง | 4.1 ฐานสัญญา : เช่นการจัดส่งสินค้า การวางบิล การยืนยันยอดหนี้ค้างชำระและการจัดส่งใบเสร็จรับเงินให้กับลูกค้า 4.2 ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย : เช่น การติดต่อสื่อสารกับลูกค้า | |
5.ดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าในระบบของบริษัท | ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย : เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกของลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้าให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด | |
6. เพื่อวัตถุประสงค์ในการ ติดต่อสื่อสารกับลูกค้า | ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย : เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าเกี่ยวกับการให้บริการต่าง ๆ ของบริษัท | |
7. เพื่อตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัท และเพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านและบุคคลทั่วไป | 7.1 ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย : เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ของบริษัทหรือบุคคลทั่วไป ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัทและเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการตามกฎหมาย 7.2 ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล : เพื่อ ป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายและสุขภาพของบุคคล |
ข้อ 3 ระยะเวลาในการรักษาและลบข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับลูกค้า
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล | ระยะเวลาการเก็บรักษา |
1. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ อาชีพ หมายเลขประจำตัวประชาชน 2. ข้อมูลการติดต่อ เช่น สถานที่จัดส่งสินค้า สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร Email Line ID และข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนเป็นสมาชิก/ลูกค้ากับบริษัทหรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ 3. ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมซื้อขาย เช่น รหัสลูกค้า รายละเอียดการสั่งซื้อ 4.ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน จำนวนเงิน วงเงินสินเชื่อ เงื่อนไขการชำระเงิน เลขที่บัญชี ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับสินค้า ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน | บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ทั้งนี้ไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ยุติความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือตามที่กฎหมายกำหนด หรือจนกว่าจะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมาย |
2. ข้อมูลที่ได้จากกล้องวงจรปิด CCTV เช่น ข้อมูลภาพถ่ายที่ได้จากกล้องวงจรผิด | บริษัท จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 120 วัน นับแต่วันที่ท่านได้เข้าอาคารหรือสถานที่ของบริษัท หรือจนกว่าจะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมาย |
การลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลนิรนาม | |
บริษัทอาจเลือกที่จะดำเนินการการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลนิรนามดังต่อไปนี้ 1. เอกสารในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์จะต้องถูกลบด้วยวิธีการที่ทำให้ข้อมูลนั้นไม่อาจถูกเข้าถึงได้อีกเลย 2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บอยู่ในอุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลหรือวัตถุใดๆ จะต้องถูกลบออกจากอุปกรณ์ดังกล่าวก่อนที่จะมีการทิ้งอุปกรณ์นั้น 3. ในกรณีที่ข้อมูลนั้นไม่สามารถถูกลบจากอุปกรณ์ได้ จะต้องมีการทำลายตัวอุปกรณ์นั้นโดยบุคคลที่มีสิทธิหรือบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการทำลาย 4. กระดาษจะต้องถูกทำลายโดยเครื่องย่อยกระดาษ |
ข้อ 4 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะรักษาข้อมูลส่วนตัวของท่านไว้เป็นความลับในกรณีที่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะบริษัทจะขออนุญาตจากท่านก่อน บริษัทอาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
4.1 เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่
4.2 เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ให้แก่ หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
4.3 เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่การสอบสวน หรือการพิจารณาคดี
4.4 เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับการฟ้องร้องคดีต่างๆ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ
4.5 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ
4.6 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ผู้ตรวจสอบจากภายนอก
ข้อ
5 การใช้คุกกี้ (Cookies)
บริษัทเก็บรวบรวมและใช้ คุกกี้ รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัทหรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของบริษัทและเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของบริษัทและข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัท ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งาน คุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน
ข้อ 6 มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัท
บริษัทจัดให้มีมาตรการด้านเทคนิค ด้านกายภาพ และด้านการบริหารจัดการ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย เข้าถึง
ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยโดยปราศจากอำนาจ หรือโดยมิชอบ
การกำหนดเกี่ยวกับการอนุญาตหรือการกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ข้อ
7 สิทธิของลูกค้า
ลูกค้ามีสิทธิต่างๆ
ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวม 8 ประเภท คือ
7.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม : ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ในกรณีที่การถอนความยินยอมมีผลกระทบต่อท่านในเรื่องใด บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบดังกล่าว
7.2 สิทธิในการเข้าถึง : ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงและขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านหรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม
7.3 สิทธิในการขอรับข้อมูล : ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
7.4 สิทธิในการคัดค้าน : ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
7.5 สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
7.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล : สิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
7.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิในการขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการให้ข้อมูลถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
7.8
สิทธิร้องเรียน : สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ
ข้อ 8 ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
8.1 ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล/สถานที่ติดต่อ
บริษัท โครีม คอร์เปอเรชั่น จำกัด สำนักงานใหญ่ เลขที่ 75/29 อาคารริชมอนด์ ชั้นที่ 12 ซอยสุขุมวิท 26 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
8.2 วิธีการติดต่อ
ทำเป็นหนังสือ หรือ ทางโทรศัพท์หมายเลข 02-7009506 E-mail : cs@koream.co.th